การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน (Mix Method Research) เกี่ยวกับการศึกษา ประสิทธิภาพการบริหารจัดการงานทะเบียนและวัดผล มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในเขตภาคเหนือ โดยมีวัตถุประสงค์ในการวิจัยคือ 1. เพื่อศึกษาสภาพการณ์และปัญหาอุปสรรคของการบริหารจัดการงานทะเบียยและวัดผล ของมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในเขตภาคเหนือ 2. เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของการบริหารจัดการงานทะเบียนและวัดผลในเขตภาคเหนือ และ 3. เพื่อพัฒนากลยุทธ์ด้านการบริหารจัดการงานทะเบียนและวัดผลของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในเขตภาคเหนือ

            เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ การสังเกตุแบบมีส่วนร่วม (Observations Participant) การใช้แบบสอบถามซึ่งได้ดำเนินการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารงานฝ่ายทะเบียนและวัดผล จำนวน 5 คน ประกอบด้วย หัวหน้าฝ่ายทะเบียนและวัดผล เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนและวัดผล และการสัมภาษณ์เชิงลึก ประชากรกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นิสิต เจ้าหน้าที่หรือพนักงานที่มีความเกี่ยวข้องกับงานด้านทะเบียนและวัดผล จำนวน 113 คน

ผลการวิจัย พบว่า 1. ประสิทธิภาพการบริหารจัดการงานทะเบียนและวัดผล มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในเขตภาคเหนือ ในด้านขั้นตอนการให้บริการ พบว่าโดยรวมระดับประสิทธิภาพอยู่ในระดับดีเนื่องจากในอดีตการจัดทำใบรับรองหรือใบรายงานผลการศึกษา ต้องใช้บุคลากรในหน่วยงานจัดพิมพ์ใบรับรอง หรือใบรายงานผลการศึกษา ความถูกต้อง และความผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้ และระยะเวลาในการจัดทำใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ ปัจจุบัน ได้นำคอมพิวเตอร์มาใช้โดยมีระบบทะเบียนนักศึกษา คือสามารถเอาข้อมูลระเบียนประวัติที่ป้อนไว้ โดยกำหนดรูปแบบต่างๆ แล้วนำมาใช้ เช่นโปรแกรมทำใบรับรอง และใบรายงานผลการศึกษาซึ่งทำให้สะดวกและรวดเร็ว โดยสามารถลดระยะเวลาการจัดทำ และลดขั้นตอนการให้บริการให้สั้นลงได้

2. ประสิทธิภาพการบริหารจัดการงานทะเบียนและวัดผล มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในเขตภาคเหนือ ในด้านสถานที่ พบว่า โดยรวมระดับประสิทธิภาพอยู่ในระดับดี เนื่องจากปัจจุบันงานทะเบียนและสถิตินิสิตได้พัฒนาระบบงานทะเบียนนักศึกษา มีการลงทะเบียนเรียนทางอินเตอร์เน็ต นิสิตสามารถเข้าระบบทะเบียนได้ที่บ้านหรือตามที่ต่างๆ จึงทำให้นิสิตส่วนมากไม่มาติดต่อที่งานทะเบียนโดยตรง จึงทำให้สถานที่ที่ให้บริการเพียงพอต่อการให้บริการนิสิต และงานทะเบียนและวัดผล มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในเขตภาคเหนือ ได้เข้าร่วมกิจกรรม 5 ส. จึงทำให้สถานที่ที่ให้บริการ มีความสะอาด เป็นระเบียบ

3. ประสิทธิภาพการบริหารจัดการงานทะเบียนและวัดผล มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในเขตภาคเหนือ ในด้านบุคลากรที่ให้บริการ พบว่าโดยรวมระดับประสิทธิภาพอยู่ในระดับดีเจ้าหน้าที่มีการแต่งกายสะอาด สุภาพ เรียบร้อย เจ้าหน้าที่มีความสุภาพ อ่อนโยน ยิ้มแย้มแจ่มใส และเป็นกันเอง เต็มใจและยินดีให้บริการ ทั้งนี้เนื่องจาก บุคคลากรของงานทะเบียนทุกคนมีจิตสำนึกที่ดีต่อพันธกิจในการให้บริการ คือ จะต้องให้บริการด้วยความมีมิตรไมตรี มีความเป็นกันเอง มีความรักใคร่กลมเกลียวกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และสิ่งที่บุคลากรทุกคนในงานทะเบียนและวัดผล จะต้องคำนึงถึง คือ จะต้องพยายามทำให้นิสิตมีความพึงพอใจมากที่สุด หรือสามารถสนองตอบความต้องการของนิสิตมากที่สุด โดยยึดหลักการในการบริการด้วยความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง เสมอภาค สนองตอบความต้องการ และมีความพร้อมในการให้บริการ ไม่เลือกปฏิบัติในการให้บริการ

     This research study was a hybrid (Mix Method Research) on education performance management, registration and measurement, Maha Chulalongkorn University College Northern Region. The objective of this research were: 1) To study the situation and problems of the management and registration of measurement at University of Chulalongkorn University College, Northern Region 2) To study the efficiency of the management of registration and evaluation in the Northern Region and 3) To develop the managing registration and measurement strategy, University of King Chulalongkorn College in North Region

            The tools used to collect data were empirically participatory, the survey which was conducted using random sample of specific stakeholders in the management of registration and evaluation consisted of 5 persons, the Chief Registration and Evaluation, Registration and Evaluation Officer, then in-depth interviews The sample population of students, staff also employees who were related to the registration and evaluation of 113 people.

                The results showed that 1. Registration and management efficiency measures at Maha Chulalongkorn University College, Northern Region in the process of serving found that: the overall performance level was good because in the preparation of the report or certificate studied the need for personnel in the agency publishes certificates or the report of the accuracy and errors may occur and timing for the preparation took at least three days or one week. The students enroll online then data records could be entered. The various forms and used as certificate program, then reported the results of the study, which made it convenient and fast. This could reduce the time for preparation and the steps of providing would be shorter.

            2. Performance Management, Registration and Measurement, Maha Chulalongkorn University College, Northern Region in its place found that the overall performance level was good. Currently students registration and statistics had developed the registration’s students system with enrollment on the internet so students  could  register  on  the  system  or  the  other  majority  students didn’t  contact  registrar  directly .

Therefore, there were enough places to provide students services. Registration and measurement, Maha Chulalongkorn University College, Northern Region was also attended to the Challenged Cleaning Project it made the campus place be clean and tidy.

            3. Registration and management efficiency measured, Maha Chulalongkorn University College, Northern Region serviced personnel found that the overall performanced was good and clean, the personnels were dressed modestly, the staff also be courteous, smiling and friendly, they all be willing and happy to served and worked because, all registration staffs had good conscience toward its mission of serviced that provided with hospitality, friendly, affectionate amicable helped each other. All staff at the Registration and Evaluation be reckoned with them, tried to make the most satisfied students that could meet the needs of most students. The principle of equality had to be provided with the convenience needs and was ready to serve. It didn’t discriminate providing in services.