การมีส่วนร่วมของชุมชนในนโยบายการจัดการแหล่งท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรม: กรณีศึกษาบ้านเชียงจังหวัดอุดรธานี

พระ วิชชญะ น้ำใจดี, เพ็ชรัตน์ ไสยสมบัติ

Abstract


บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดำเนินงานในนโยบายการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี2.เพื่อศึกษาประโยชน์ในการนำนโยบายการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ของชุมชนบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานีไปปฏิบัติการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยวิธีการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้รับผิดชอบนโยบายของเทศบาลตำบลบ้านเชียง เจ้าหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง และตัวแทนประชาชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านเชียง

ผลการวิจัยพบว่า การมีส่วนร่วมของชุมชนในนโยบายการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านเชียง ชุมชนไม่มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย แต่มีส่วนร่วมในการดำเนินงานตามนโยบายเป็นอย่างดีมีส่วนร่วมในการใช้ประโยชน์ของนโยบายการจัดการแหล่งท่องเที่ยว เกิดเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทพวนเพื่ออนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมของไทพวนบ้านเชียง และเกิดกลุ่มอาชีพเพื่อเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยการเข้ากลุ่มอาชีพตามความถนัดของตน และการเปิดบ้านเป็นที่พักแบบโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าพักและสัมผัสวิถีชีวิต การกิน การแต่งตัว และวัฒนธรรมไทพวนที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนบ้านเชียง ทำให้เกิดเป็นรายได้ของชุมชน

ปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านเชียงในนโยบายการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญได้แก่ กลุ่มอาชีพส่วนใหญ่ขาดผู้ที่จะมาสืบทอดภูมิปัญญา ไม่มีรถโดยสารประจำทางมาที่แหล่งท่องเที่ยว ไม่มีจุดต้อนรับนักท่องเที่ยว และผลกระทบจากการท่องเที่ยวต่อโบราณวัตถุ มาจากการนำรถใหญ่เข้าใกล้บริเวณพิพิธภัณฑ์และการจัดงานมหรสพเสียงและแรงสั่นสะเทือนทำให้โบราณวัตถุอาจะเกิดความเสียหายได้เพราะบ้านเชียงเป็นแหล่งโบราณคดีที่อยู่ใต้ดิน

ข้อเสนอแนะการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านเชียงในนโยบายการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ควรให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการกำหนดแนวทางและวางแผนในการพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จัดสรรเจ้าหน้าที่ มัคคุเทศก์ ประจำจุดประชาสัมพันธ์เพื่อแนะนำนักท่องเที่ยวหน่วยงานราชการในระดับนโยบายควรจัดการประชุมเพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้กระทบต่อแหล่งโบราณวัตถุจัดสรรงบประมาณสนับสนุนปรับปรุงทัศนียภาพ แหล่งท่องเที่ยวและจัดกิจกรรมหรือโครงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้ต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว

 คำสำคัญ: การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม, การมีส่วนร่วม, แหล่งมรดกโลกบ้านเชียง

 

ABSTRACT

The objectives of this research are 1. to study the policy, process and cultural tourism management by community participation in Ban Chiang, UdonThani province, 2.to study the benefits of the cultural tourism management in Ban Chiang. This study is qualitative research. The key information interviews including the person in charge of Ban Chiang municipality office, the museum staff of Ban Chiang national museum, and the representative samples of the people's participationat Ban Chiang cultural tourism were used in this research. This study determines the community participation of the cultural tourism management. The results showed thatthe community does not participate in the planning process and impose a policy, but the community can be used this policy which improve the community benefits of the tourism management. Additionally, Tai Puan folk museum was established for cultural preservation supports of Tai Puan, Ban Chiang. This result indicated that it was the basic reason for establishing the occupation cultural tourism group examples the community participation was available to welcome the tourists, the community was disseminated the culture and open the house as a homestay, and travelers get the experience the life and culture of Tai Phuan culture which was an unique community. The Tai Phuan community was disseminated and conserved the tradition and culture such as traditional costumes, food and dance etc. All of these activitieswere particularly important source of income in the community.

The main problems and obstacles of this study associated with Ban Chiang community's participation in the cultural tourism management such as the major problems of local wisdom transfer found were lack of interested learners and descendants, without which do not have bus or transportation to the tourist attraction, do not have tourist information center, and the effect of tourist activities can impact the integrity of archaeological sites such as bringing a large car near the museum, and there are entertainment as sound and vibration can be damaged the this sitesbecause Ban Chiang is an underground archaeological site.

The recommendations of this study are: encourage the community to participate in policy formulation, planning, and solving the local problems. There are should be improve of the information board to clear and cover the entire tourist areas in this place, and should be the project on the development of knowledge about tourist destinations for community personnel to prepare and improve the community's problems; the community is ready to accommodate the growing number of tourists.

 Keywords:Ban Chiang archaeological site, Cultural tourism,Participation


Full Text:

PDF

Refbacks

  • There are currently no refbacks.