การจัดการอาชีวอนามัยความปลอดภัยในศูนย์กำจัด ขยะมูลฝอยแบบครบวงจร MANAGEMENT OF OCCUPATIONAL HEALTH SAFETY (OHS) AT INTEGRATED SOLID WASTE CENTER

Abstract

    การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการจัดการอาชีวอนามัยความปลอดภัยในการทำงานของพนักงาน และด้านคุณภาพชีวิตในการทำงาน ให้เกิดความปลอดภัยและมีสุขภาพอนามัยในการทำงานที่ดี โดยศึกษากลุ่มประชากรจำนวนทั้งหมด 71 คน ซึ่งเป็นพนักงานที่ปฏิบัติงานทั้งหมดในศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจรขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง  เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม สถิติที่ใช้การแจกแจงความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป พบว่า ภาพรวมของการจัดการอาชีวอนามัยความปลอดภัยในองค์กร โดยใช้หลักจัตุรัสความปลอดภัย (Safety Square) ในการประเมินความพึงพอใจของพนักงาน อยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย 3.08 ±0.60) และปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการอาชีวอนามัยความปลอดภัยในองค์กรที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขมี 2 ปัจจัย ได้แก่ ด้านการจัดตั้งองค์กรเพื่อความปลอดภัยและด้านการควบคุม ค่าเฉลี่ย 2.44 ±0.62 ,ค่าเฉลี่ย 2.62 ±0.47 ตามลำดับล ส่วนด้านคุณภาพชีวิตในการทำงาน ตามความคิดเห็นของพนักงานในองค์กร ระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย 2.84 ± 0.74) ผลสามารถเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อการส่งเสริมด้านอาชีวอนามัยความปลอดภัยในการทำงานต่อไป

     This research examines the management of occupational health and safety (OHS) of the employees. Additionally, the paper also includes the quality of life in the organization in order to enhance the wellbeing of the workers. The study population of 71 people of Lampang Integrated Solid Waste Center. Analysis of data using query statistics frequency, percentage, mean and standard deviation. The results from this investigation show that the overall rating of OHS management in the organization is the moderate level (average of 3.08 ± 0.60). The factors influencing the management of OHS a factor should be improve the safety organization and the control (average of 2.44 ±0.62, 2.62 ±0.47). The quality of work life the moderate level according to the opinions of employees in the organization (average of 2.84 ± 0.74).The findings have led to recommendations for policy makers to support OHS in the workplace.